สี่แยกราชประสงค์ได้รวมเทพเจ้าศักดิ์สิทธิ์ทั้ง 8 องค์ไว้ในบริเวณเดียวกัน เพื่อให้ผู้ที่เปี่ยมไปด้วยศรัทธา ได้เดินทางมาสักการะบูชา ทั้งนี้การสวดมนต์ขอพรจากทวยเทพ หากจะให้ได้ผลดีตามที่ปรารถนา ให้หมั่นทำความดีประกอบไปด้วยเสมอ
การเดินทางไปแยกราชประสงค์
โดยสารประจำทาง : สาย 2, 13, 14, 17, 76, 77, 79, 164, 504, 505, 511, 514
รถไฟฟ้า BTS : ลงที่สถานีชิดลม จากนั้นมองหาป้ายที่เขียนว่า “เซ็นทรัลเวิลด์ ทางออกที่ 6” จากนั้นเดินตาม Sky Walk มาเรื่อยๆ (ประมาณ 100 เมตร)
พระพิฆเนศ – เทพแห่งศิลปะวิทยาการและความสำเร็จ
ประดิษฐาน ณ บริเวณหน้าห้างสรรพสินค้าอิเซตัน (เซ็นทรัลเวิลด์)
เป็นที่นับถือในฐานะเทพแห่งศิลปวิทยาการ เทพผู้ขจัดอุปสรรค อีกทั้งทรงเป็นเทพผู้บันดาลความสำเร็จและพระผู้ปกป้องคุ้มครองจากภยันตราย
สิ่งที่ใช้สักการะ : ธูป 9 ดอก เทียน 1 เล่ม พวงมาลัยดอกดาวเรือง กล้วย อ้อยหรือน้ำอ้อย มะม่วงสุก เมล็ดงา มะขวิด ทับทิม นมสดและนมเปรี้ยว ขนมต้มแดง ขนมต้มขาว
ดอกไม้สักการะ : ดอกบัวแดงสำคัญที่สุด หรือกุหลาบแดง ใบกะเพรา ใบทับทิม ใบมะม่วง (ฮินดูถือเป็นไม้มงคล) หญ้าแพรก ดอกมะลิ ใบมะตูม ใบมะเขือพวง ใบพุทรา ใบรำเพย ดอกดาวเรือง
วันสักการะประจำปี : วันที่ 2 ธันวาคม ของทุกปี
พระตรีมูรติ – เทพเจ้าแห่งความรัก
ประดิษฐาน ณ บริเวณหน้าห้างสรรพสินค้าอิเซตัน (เซ็นทรัลเวิลด์)
เป็นรูปเคารพที่รวมเทพเจ้าสูงสุดในศาสนาฮินดูทั้ง 3 ไว้ในรูปเดียวกัน ได้แก่ พระพรหม-ผู้สร้าง พระวิษณุ-ผู้รักษา และพระศิวะ-ผู้ทำลาย เชื่อกันว่าหากบูชาพระตรีมูรติ จะทำให้อุดมสมบูรณ์ทั้งชีวิต ความรัก และการงาน โดยเฉพาะหนุ่มสาวนิยมบูชาพระตรีมูรติในฐานะเทพแห่งความรัก
สิ่งที่ใช้สักการะ : ธูปสีแดง 9 ดอก เทียนสีแดง 1 เล่ม (ถ้าเป็นคู่ ถือเคล็ดว่าต้องประกบให้แนบชิดกัน เพื่อความแนบแน่นในชีวิตรัก) ดอกกุหลาบสีแดง 9 ดอก หรือพวงมาลัยกุหลาบ 1 พวง และผลไม้
ดอกไม้สักการะ : ใบมะตูม (มียอด 3 แฉก) แต่หากหาไม่ได้ก็ใช้ดอกไม้อย่างอื่นแทนได้เช่น ดอกบัวขาว ใบสะเดา ดอกไม้สีเหลืองมีกลิ่นหอม เช่น จำปี จำปา
วันสักการะประจำปี : วันที่ 14 กุมภาพันธ์ ของทุกปี
พระแม่อุมาเทวี – เทพีแห่งพลังอำนาจยิ่งใหญ่
ประดิษฐาน ณ บริเวณบิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ สาขาราชดำริ
แม่ผู้เป็นใหญ่ในจักรวาล มีอำนาจยิ่งใหญ่หาสิ่งใดเทียบ ประทานชัยชนะเหนือศัตรู ทำลายสิ่งชั่วช้า และยังประทานพรด้านความผาสุกในการครองเรือนอีกด้วย
สิ่งที่ใช้สักการะ : ธูป 10 ดอก แนะนำให้ใช้ธูปที่มีกลิ่นหอมหรือกำยาน กลิ่นมะลิ ไม้จันทน์ ขนมที่มีรสชาติมัน และไม่มีกลิ่นหอมแรงเกินไป ธัญพืชและผลไม้ทุกชนิด (งดเว้นผลไม้ที่มีหนาม) ห้ามถวายเนื้อสัตว์
ดอกไม้สักการะ : ดอกไม้ทุกชนิด แนะนำดอกดาวเรือง ดอกกุหลาบ ดอกมะลิ และดอกกล้วยไม้
วันสักการะประจำปี : วันขึ้น 1–9 ค่ำ เดือน 11
พระลักษมี – เทพแห่งความมั่งคั่ง
ประดิษฐาน ณ บริเวณดาดฟ้า ชั้น 4 เกษรวิลเลจ
เป็นพระชายาคู่บารมีของพระนารายณ์ เป็นเทพผู้บันดาลโชคลาภ ความมั่งคั่ง ความอุดมสมบูรณ์
สิ่งที่ใช้สักการะ : ดอกบัวบานสีชมพูเข้ม เหรียญหรือสิ่งที่เป็นสัญลักษณ์แสดงความมั่งคั่ง และอ้อยหรือน้ำอ้อย
ดอกไม้สักการะ : ดอกบัวหลวงสีขาว ดอกบัวหลวงสีชมพู ดอกบานไม่รู้โรยสีใดก็ได้ ดอกกุหลาบสีชมพู การสักการะควรมีอ่างใหญ่ใส่น้ำสะอาดเต็มขอบอ่างวางไว้หน้ารูปเคารพ เวลาจะถวายดอกบัว คลี่ให้บานก่อนแล้วนำลอยน้ำ(เนื่องจากพระลักษมีจุติจากฟองน้ำ)
วันสักการะประจำปี : วันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 5 (หรือ 5 เมษายน)
ท้าวจตุโลกบาล : ภาครวมบารมีเป็นหนึ่ง เทพผู้คุ้มครองมนุษย์โลกทั้ง 4 ทิศ และเทพแห่งความร่ำรวย
ประดิษฐาน ณ บริเวณดาดฟ้า ชั้น 4 เกษรวิลเลจ
ท้าวจตุโลกบาลทั้ง 4 องค์ สถิตอยู่บนสวรรค์ชั้นจาตุมหาราชิกา ประจำทิศต่างๆ ทั้ง 4 ทิศ ประกอบด้วย
1.ท้าวธตรฎฐ์ ผู้เป็นใหญ่ด้านทิศตะวันออก กายสีเขียว รูปร่างสูงโปร่ง และสูงกว่าทุกๆ องค์ใน 4 ท้าวจตุโลกบาล มือซ้ายถือพิณ มือขวาดีดพิณ มีคนธรรพ์เป็นบริวาร
2.ท้าววิรุฬหก ผู้เป็นใหญ่ด้านทิศใต้ กายสีขาว รูปร่างสมส่วนงดงาม มีหน้าแดง มือซ้ายมีงูเลื้อยพัน ฝ่ามือจับคองูไว้ มือขวาถือพระขรรค์ มีมงกุฎประดับด้วยรูปนาค มีอสูรเป็นบริวาร
3.ท้าววิรูปักษ์ ผู้เป็นใหญ่ด้านทิศตะวันตก กายสีขาว รูปร่างอ้วนใหญ่ ท้องป่องพุงใหญ่ คอสั้น หัวโต ฟันขาวเขี้ยวโง้งออกจากปาก ริมฝีปากนูน ตาใหญ่ ขาสั้น มือซ้ายถือธนู ทรงอาภรณ์สีแดงเลือด มีฝูงนาคเป็นบริวาร
4.ท้าวกุเวร (ท้าวเวสสุวรรณ) ผู้เป็นใหญ่ด้านทิศเหนือ เป็นยักษ์ 3 ขา ร่างกายกำยำล่ำสัน กายสีขาว มีฟัน 8 ซี่ มี 4 กร สวมอาภรณ์งดงาม มีมงกุฎเป็นน้ำเต้า มือขวาถือกระบองยาว มียักษ์เป็นบริวาร เป็นใหญ่ที่สุดในท้าวจตุโลกบาลทั้ง 4 เป็นเทพแห่งขุมทรัพย์ ความร่ำรวย มั่งคั่ง ในคัมภีร์โบราณกล่าวไว้ว่าผู้ใดหวังความเจริญในลาภยศ ทรัพย์สินเงินทอง อำนาจวาสนา ให้บูชารูปท้าวเวสสุวรรณ
สิ่งที่ใช้สักการะ : ธูป 16 ดอก หมากพลู และบุหรี่ 9 คำ ผลไม้ เช่น กล้วย มะม่วงสุก มะพร้าวอ่อน แก้วมังกร เป็นต้น ขนมต้มแดง ต้มขาว ทองหยิบ ทองหยอด ฝอยทอง ถ้วยฟู ขนมชั้น น้ำเปล่า น้ำหวาน (สีแดง เขียว เป็นต้น)
ดอกไม้สักการะ : ดอกไม้สีแดง ดอกกุหลาบ ดอกดาวเรือง ดอกมะลิ
วันสักการะประจำปี : วันที่ 9 กุมภาพันธ์ ของทุกปี
ท้าวมหาพรหม (พระพรหมเอราวัณ) – มหาเทพผู้สร้างโลกและกำหนดชะตาชีวิตของสรรพสิ่ง
ประดิษฐานบริเวณโรงแรมแกรนด์ ไฮแอท เอราวัณ กรุงเทพฯ แยกราชประสงค์
ท้าวมหาพรหมมีสี่พักตร์ แต่ละพักตร์เป็นดั่งสัญลักษณ์แทนทิศทั้ง 4 ทำให้พระองค์สามารถมองเห็นและปกปักรักษาได้ทั้งโลกมนุษย์และสวรรค์ มีชื่อเสียงในการประทานโชคลาภ เพราะทรงเปี่ยมไปด้วยเมตตา เนื่องจากพระองค์มีพระอารมณ์เย็น ทรงรับฟังคำขอและคำสวดภาวนาของทุกคน และทรงทำให้ผู้สักการะที่มีจิตศรัทธาสมความปรารถนา
สิ่งที่ใช้สักการะ : ธูป 12 ดอก เทียน 4 เล่ม พวงมาลัยดอกมะลิและดาวเรือง และทองคำเปลว 4 แผ่น โดยเริ่มบูชาจากพระพักตร์ด้านประตูทางเข้าและวนรอบองค์ตามเข็มนาฬิกา จุดธูปไหว้ด้านละ 3 ดอก พร้อมด้วยเทียน พวงมาลัย และทองคำเปลวบูชาที่แต่ละด้านขององค์ท้าวมหาพรหม
ดอกไม้สักการะ : ดอกบัวขาว ดอกไม้สีขาวต่าง ๆ ดอกโมกขาว ดอกมะลิขาว ดอกแก้วขาว
วันสักการะประจำปี : วันที่ 9 พฤศจิกายน ของทุกปี
พระอินทร์ หรือ ท้าวอัมรินทราธิราช – เทพแห่งความเมตตา ราชาผู้ครองสวรรค์
ประดิษฐานหน้าตึกอัมรินทร์ พลาซ่า
พระผู้ดูแลทุกข์สุขของมนุษย์โลก มีพระวรกายสีเขียวหยกเข้ม มีพระเนตรถึงพันดวง มีช้างเอราวัณเป็นพาหนะ ทรงเป็นที่เคารพสักการะในฐานะพระผู้ดูแลทุกข์สุขของมนุษย์โลก
สิ่งที่ใช้สักการะ : ตุ๊กตาช้างและพวงมาลัยดอกดาวเรือง
ดอกไม้สักการะ : ดอกบัวขาว ดอกบัวแดง กุหลาบขาว ดอกไม้หอมสีอะไรก็ได้
วันสักการะประจำปี : วันที่ 20 ธันวาคม ของทุกปี
พระนารายณ์ทรงสุบรรณ – พระผู้คุ้มครองรักษา
ประดิษฐานอยู่หน้าตึกโรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล
พระผู้คุ้มครองรักษา เป็นเทพที่ปกปักรักษาให้เจริญรุ่งเรืองและคุ้มครอง เปรียบประดุจเทพแห่งความเมตตา อำนาจของพระองค์สามารถขจัดปัดเป่าความชั่วร้ายและสิ่งไม่ดี
สิ่งที่ใช้สักการะ : เครื่องสักการะสีเหลือง เช่น พวงมาลัยดอกดาวเรือง ผ้าไทย และขนมไทย เช่น ทองหยิบ ทองหยอด
ดอกไม้สักการะ : ดอกบัวขาว ดอกดาวเรือง ดอกกล้วยไม้ขาว ดอกมะลิขาว
วันสักการะประจำปี : วันที่ 18 พฤษภาคม ของทุกปี
