มุกดาหาร 2 วัน 1 คืน

จังหวัดมุกดาหารเป็นอีกหนึ่งจังหวัดที่อยู่ติดริมแม่น้ำโขง ครบเครื่องทั้งแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ ชิลล์เล่นในเมือง อาหารรสอร่อย รวมถึงมีการท่องเที่ยวที่อิงกับความเชื่อท้องถิ่นที่ค่อนข้างน่าสนใจมากสำหรับแอด จะมีที่ไหนบ้าง ตามไปอ่านกัน

วันที่ 1
1.ภูผาเทิบ
.
วันที่ 2
2.ห้าแยกมุกดาหาร
3.วัดภูมโนรมย์
4.ตลาดอินโดจีน
5.แก่งกะเบา
6.ศาลพ่อปู่อนันตนาคราช
7.เรือนจอมเพชร
8.สะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 2

วันที่1
.
อุทยานแห่งชาติภูผาเทิบ
.
ภูผาเทิบอยู่ห่างจากอำเภอเมืองประมาณ 17 กิโลเมตร ถนนลาดยาง เดินทางสะดวก ช่วงที่แอดไป นักท่องเที่ยวไม่เยอะ แดดค่อนข้างแรงแม้จะเป็นช่วงเช้า ลักษณะทางภูมิศาสตร์ของที่นี่ ส่วนใหญ่จะเป็นภูเขาหินทรายลูกใหญ่สลับกับต้นไม้สูง
.
เมื่อถึงอุทยานแล้ว แนะนำให้ไปติดต่อที่ศูนย์ข้อมูลท่องเที่ยว จะมีเจ้าหน้าที่คอยนำชมอย่างเป็นมิตร ที่สำคัญมีร่มให้บริการด้วยนะ
.
อุทยานแห่งชาติภูผาเทิบ บ้านคอนสาย ต.นาสีนวน อ.เมืองมุกดาหาร จ.มุกดาหาร 49000
เวลาทำการ 08:30-16:30 น. เปิดทุกวัน
โทร. 09 4289 2383, 0 4267 6474

ภายในอุทยานมีแหล่งท่องเที่ยวหลายจุด ถ้าจะเดินให้ครบ ต้องใช้เวลาเกือบทั้งวันเลยล่ะ ก่อนมาอย่าลืมเตรียมร่างกายและจิตใจให้พร้อมกันด้วย แต่ถ้ามีเวลาจำกัด ก็สามารถเลือกเดินเองได้เลยว่าจะไปถึงจุดไหน แหล่งท่องเที่ยวที่แอดจะแนะนำมีดังนี้
.
กลุ่มหินเทิบ (20 เมตร)
.
กลุ่มหินเทิบ เป็นผลงานประติมากรรมจากการกัดเซาะของฝน น้ำ ลม และแสงแดด ทำให้เกิดเป็นหินรูปร่างแปลกตามากมาย หินบางก้อนดูคล้ายเครื่องบิน รองเท้าบู้ท มงกุฎ สิงโต จระเข้ก็มี ดูเพลิน ๆ แล้วแต่จินตนาการของแต่ละคน

ลานมุจลินท์ (500 เมตร)
.
เป็นลานหินขนาดใหญ่ หากเพื่อน ๆ มาในช่วงเดือนตุลาคม-ธันวาคม จะได้เจอกับ ทุ่งดอกหญ้าของพืชขนาดเล็ก เช่น สร้อยสุวรรณา หยาดน้ำค้าง หนาวเดือนห้า ดาวรวมดวง และดุสิตา แต่ถ้ามาช่วงอื่น เพื่อน ๆ ก็จะเจอลานหินโล่ง ๆ มีหญ้าแซมนิด ๆ สวยไปอีกแบบ บริเวณกลางลานสามารถมองเห็นวิวแม่น้ำโขงได้ด้วยนะ

ทุ่งดอกหญ้า (บานช่วงเดือนตุลาคมของทุกปี) ดอกทิพเกสรและดอกสร้อยสุวรรณา

มีดอกมณีเทวา บานอยู่ในบริเวณเดียวกันด้วยนะ

น้ำตกวังเดือนห้า (1000 เมตร)

อยู่ทางด้านขวาของลานมุจลินทร์ เป็นน้ำตกขนาดเล็ก เกิดจากธารน้ำที่ไหลผ่านลานหินมุจลินท์ เป็นบ่อน้ำซับที่หล่อเลี้ยงพืชพันธุ์และสัตว์ป่าภายในอุทยาน

ผาอูฐ (1000 เมตร)

เป็นหน้าผาที่มีประติมากรรมหินรูปร่างคล้ายอูฐ เป็นจุดชมวิวที่ไม่เพียงมองเห็นผาผักหวาน และผาขี้หมูได้อย่างชัดเจนเท่านั้น แต่ยังสามารถมองเห็นภูถ้ำพระได้ในระยะไกลอีกด้วย

น้ำตกภูถ้ำพระ (2000 เมตร)

มีลักษณะเป็นหน้าผาสูง ในหน้าแล้งจะไม่มีน้ำ ด้านบนเป็นสถานที่ที่เรียกว่าภูถ้ำพระ มีตำนานเล่าว่าที่นี่เคยเป็นหมู่บ้านขอม ก่อนจะมีย้ายถิ่นหนีภัยธรรมชาติ ได้นำพระพุทธรูปที่นับถือไปเก็บไว้ที่ถ้ำแห่งนี้ ซึ่งมีทั้ง พระเงิน พระนาก พระทองคำ รวมไปถึงพระไม้จำนวนมาก น่าเสียดายที่ปัจจุบันพระพุทธรูปหายไปเยอะแล้ว เหลือแต่พระพุทธรูปที่แกะสลักด้วยไม้เท่านั้น

ผาไทร (3,000 เมตร)

เป็นหน้าผาสูง เป็นจุดชมวิวและชมพระอาทิตย์ขึ้นที่สวยอีกจุดของภูผาเทิบ บริเวณทางลงหน้าผามีเพิงหินที่พิงกันอยู่ดูเป็นช่องแคบ สามารถเดินลอดผ่านได้จึงเรียกกันว่า “ถ้ำลอด” บริเวณนี้เป็นจุดที่ชาวบ้านเคยขุดพบเศษถ้วยชามและของโบราณ

อัตราค่าบริการ
คนไทยผู้ใหญ่ 20 บาท เด็ก 10 บาท
ชาวต่างชาติผู้ใหญ่ 200 บาท เด็ก 100 บาท
.
ค่าบริการพาหนะ/คัน
จักรยาน ฟรี
จักรยานยนต์ 20 บาท
รถยนต์ 4 ล้อ 30 บาท
รถยนต์ 6 ล้อ 100 บาท
รถยนต์ 6 ล้อขึ้นไป 200 บาท
.
*นักท่องเที่ยวชาวไทยลด 50 เปอร์เซ็นต์ วันจันทร์-วันศุกร์ ยกเว้นวันหยุดนักขัตฤกษ์
**บริเวณทางเข้าอุทยานมีบ้านพัก ช่วงนี้ไม่อนุญาติให้พักในอุทยานเนื่องด้วยสถานการณ์โควิด-19 จนกว่าสถานการณ์จะดีขึ้น (สอบถามเมื่อ 20/01/64)
***อุทยานแห่งชาติภูผาเทิบได้รับตรามาตรฐานท่องเที่ยวปลอดภัยด้านสุขอนามัย (SHA) จากกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาโดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) และกระทรวงสาธารณสุขโดยกรมควบคุมโรค กรมอนามัย กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ และหน่วยงานภาครัฐและเอกชนในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว

วันที่ 2
.
ห้าแยกมุกดาหาร
.
ที่นี่เป็นชุมชนชาวเวียดนามขนาดใหญ่ และเป็นตลาดอาหารเช้าที่ขึ้นชื่อของมุกดาหาร มีร้านอาหารที่ผสมผสานวัฒนธรรมอีสานและเวียดนามอยู่หลายร้าน ไม่ว่าจะเป็นข้าวเปียก ก๋วยจั๊บญวน ข้าวต้ม เลือดแปลง หมูยอ ไส้หมูลวกจิ้ม ฯลฯ โอย…หิว และแน่นอนกองทัพต้องเดินด้วยท้อง แอดเลยพาเพื่อน ๆ มาเริ่มต้นวันที่นี่ก่อน ที่ร้านข้าวเปียกห้าแยกนั่นเอง
.
ที่ตั้ง บริเวณห้าแยกชุมชนเวียดนาม ถ.พิทักษ์สันติราษฎร์ ต.ศรีบุญเรือง อ.เมือง จ.มุกดาหาร

เวลาทำการ 6.00-10.30 น. หยุดทุกวันพุธ
โทร. 0 4261 2249

ข้าวเปียกที่นี่อร่อยสมคำร่ำลือจริง ๆ เส้นเหนียวนุ่ม น้ำซุปกลมกล่อมคล่องคอ หมูยอ ซี่โครงหมู นุ่มอร่อย เข้ากันไปหมด ที่สำคัญ ราคาถ้วยละ 20-30 บาทเท่านั้น (ใส่ไข่เพิ่ม 5 บาท) Simple Delicious มาก ๆ แต่ถ้ามาช้า ระวังปาท่องโก๋หมดนะ

วัดรอยพระพุทธบาทภูมโนรมย์ จ.มุกดาหาร
.
เมื่อวานเราเข้าป่าไปแล้ว วันนี้แอดขอเปลี่ยนแนว พาไปท่องเที่ยวที่อิงกับคติความเชื่อของชาวพื้นถิ่นกันบ้าง ซึ่งที่แรกของวันนี้ก็คือ วัดรอยพระพุทธบาทภูมโนรมย์ หรือที่เรียกกันสั้น ๆ ติดปากว่า ภูมโนรมย์ นั่นเอง
.
เมื่อมาถึงแล้ว เพื่อน ๆ ต้องจอดรถไว้ที่ลานจอดรถด้านล่างของวัด ตรวจอุณหภูมิ ผ่านจุดคัดกรอง แล้วใช้บริการรถสองแถวของทางวัดขึ้นไป มีรถออกตลอด ค่ารถบริจาคตามกำลังศรัทธาที่ตู้บริจาค (ปัจจุบันห้ามนำรถส่วนตัวขึ้นทุกกรณี)
.
เหตุผลที่ต้องใช้บริการรถสองแถวของทางวัด เนื่องจากทางขึ้นเป็นภูเขาชัน มีโค้งหลายจุด รถสวนกันยาก จึงต้องใช้คนพื้นที่ขับ ซึ่งคนขับรถจะมี วอ. คอยติดต่อกัน เพื่อแจ้งว่าขับถึงจุดไหนแล้ว เพราะฉะนั้น ปลอดภัยหายห่วงงง
.
ที่ตั้ง หมู่ที่ 5 ต.ศรีบุญเรือง อ.เมืองมุกดาหาร จ.มุกดาหาร
เวลาทำการ 07.00 – 17.00 น.

นั่งรถสองแถวไม่ถึง 10 นาทีก็มาถึงบริเวณวัด เมื่อลงจากรถ เพื่อนๆ จะได้พบกับพระธาตุภูมโนรมย์ พระธาตุทรงแปดเหลี่ยม และรอยพระพุทธบาทจำลองซึ่งเป็นรอยพระพุทธบาทขนาดเล็ก สร้างจากหินทราย อันเป็นที่มาของชื่อวัดรอยพระพุทธบาทภูมโนรมย์นั่นเอง เพื่อน ๆ สามารถขอพรเพื่อเป็นสิริมงคลได้ตั้งแต่จุดนี้เลย

หลังจากขอพรพอกรุบกริบแล้ว ด้านหลังพระธาตุจะมีเนินขึ้นไปเล็กน้อย เพื่อน ๆ จะได้พบกับ พระเจ้าใหญ่แก้วมุกดาศรีไตรรัตน์ พระพุทธรูปปางมารวิชัยองค์ใหญ่ ตั้งตระหง่านอยู่บนยอดเขาภูมโนรมย์ สร้างขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติ ในหลวง ร.9 เนื่องในวโรกาสเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา

ที่นี่ยังมีไฮไลต์ที่น่าสนใจอีกจุดที่แอดจะพาไปเยี่ยมชม แต่ก่อนจะไปถึง ระหว่างทางคือทางเดินระฆัง ที่เพื่อน ๆ ต้องใช้เหรียญตีแทนไม้ตีระฆัง แล้วอธิษฐานขอพรตามความเชื่อของที่นี่ จากนั้นเอาเหรียญใส่ขันที่บริเวณสุดทางเดิน

แล้วก็มาถึงไฮไลท์ของวัดนี้ นั่นก็คือ “พญาศรีมุกดามหามุนีนีลปาลนาคราช” ที่ตั้งอยู่บริเวณลานหินของวัด คนที่นี่เล่าให้ฟังว่า สร้างขึ้นเนื่องในวาระเฉลิมฉลองการก่อตั้งวัดครบ 100 ปีและเพื่อปกปักรักษา “พระเจ้าใหญ่แก้วมุกดาศรีไตรรัตน์” นั่นเอง
.
องค์พญาศรีมุกดามหามุนีนีลปาลนาคราช หรือ ปู่ศรีมุกดา มีลำตัวยาว 122 เมตร สูงประมาณ 20 เมตร มีรูปลักษณ์น่าเกรงขาม ชูคอหันไปทางแม่น้ำโขง ลำตัวขดไปมาตามลานหิน มีสีน้ำเงินฟ้า สะท้อนสีเขียวสวยมาก แอดเดินเข้าไปดูใกล้ ๆ อดทึ่งในความละเอียดของช่างฝีมือไม่ได้ ถือเป็นรูปปั้นพญานาคที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย

มาแล้วก็อย่าลืมขอพรองค์พญานาคกันนะ เพื่อน ๆ สามารถซื้อธูป เทียน ผ้าแดงได้ตรงร้านใกล้ ๆ (จ่ายตามกำลังศรัทธา) แล้วลอดตามช่องต่าง ๆ ของลำตัวพญานาค พร้อมตั้งจิตอธิษฐาน โดยช่องต่าง ๆ มีความหมายดังนี้
.
ลองช่องที่ 1 เพื่อสะเดาะเคราะห์ ต่อชะตา
ลอดช่องที่ 2 เพื่อปกปักรักษาจากภัยพาล
ลอดช่องที่ 3 เพื่ออยู่ทิพยวิมานแดนสุขี
ลอดช่องที่ 4 เพื่อความโชคดี มั่งมีปลอดภัย
ลอดช่องที่ 5 เพื่อมีพลานามัย ไร้โรคา
ลอดช่องที่ 6 เพื่อหน้าที่การงาน และชีวิตรุ่งเรือง
ลอดช่องที่ 7 เพื่อเงินเนืองนอง ทองไหลหลั่ง
.
จากนั้นนำผ้าแดงที่เขียนชื่อตัวเองไปผูกไว้ที่ต้นไม้รอบ ๆ เป็นอันจบ

ตลาดอินโดจีน

แอดย้อนเข้ามาที่ตัวเมืองมุกดาหารอีกครั้ง เพื่อหาซื้อของฝากและเดินเล่นชิล ๆ ที่ตลาดอินโดจีน แหล่งรวมสินค้าท้องถิ่นและสินค้านำเข้าจากต่างประเทศ มีทั้งขายปลีกขายส่ง ทั้งเสื้อผ้า เครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องอุปโภคบริโภค และสินค้าพื้นเมืองมุกดาหาร เช่น ผ้าไหม ผ้ามัดหมี่ และสินค้าท้องถิ่นอื่น ๆ
.
ที่ตั้ง ซอย สำราญชายโขงฝั่งใต้ ต.ศรีบุญเรือง อ.เมืองมุกดาหาร จ.มุกดาหาร 49000
เปิดทุกวัน 08.00-18.00 น.

เพื่อน ๆ ต้องคิดแน่เลยว่าแอดจะพามาที่นี่ทำไม? ก็เหมือนตลาดทั่วไปนั่นแหละ แต่พอได้เดินจริง ๆ แล้ว แอดพบว่า ความน่าสนใจของตลาดแห่งนี้คือผู้คน ถึงบรรยากาศจะจอแจ แต่ให้ความรู้สึกสนุกอย่างบอกไม่ถูก พ่อค้าแม่ขายยิ้มแย้มช่างพูดช่างคุย ต้อนรับเหมือนแอดเป็นแขกบ้านแขกเมืองจนแอดทำตัวไม่ถูกเลย 55 อ้อ…เตือนไว้ก่อนว่าเพื่อน ๆ ต้องจิตแข็งนะ เพราะถ้าได้ซื้อแล้วล่ะก็ จะมีการลดแลกแจกแถมกันไม่หยุด

แก่งกะเบา
.
เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ถูกปรับให้เป็นสวนสาธารณะ ตั้งอยู่ตรงข้ามกับเมืองไชยบุรี สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว เพื่อน ๆ จะได้พบกับลานนักษัตร 12 ราศี และลานวัฒนธรรม 8 ชนเผ่า ที่นักท่องเที่ยวสามารถเดินชมความสวยงาม และเพลิดเพลินกับการถ่ายรูปได้
.
ที่ตั้ง อ.หว้านใหญ่ จ.มุกดาหาร 49150

ถัดจากลานนักษัตร 12 ราศีประมาณ 100 เมตร เพื่อน ๆ จะพบกับ “องค์พญาศรีภุชงค์มุกดานาคราช” (องค์พญานาคประจำคนเกิดวันจันทร์) พญานาคองค์ใหญ่สีขาว หันหน้าไปทางแม่น้ำโขง สูง 11 เมตร ยาว 51 เมตร เกล็ดประดับด้วยหินอ่อนและกระจก ถือเป็นแลนด์มาร์กที่สวยงามและโดดเด่นของแก่งกะเบา
.
เพื่อน ๆ สามารถสักการะขอพรจากองค์พญาศรีภุชงค์มุกดานาคราชได้ด้วยการกราบไหว้และลอดท้องพญานาค โดยเริ่มจากส่วนหางไปจนถึงส่วนหัว ไม่ต้องกลัวทำไม่ถูก ตามพื้นจะมีลูกศรชี้ให้เดินตามทาง

ในอดีต แก่งกะเบาเป็นแก่งหินขนาดใหญ่ที่กั้นแม่น้ำโขง เมื่อเวลาผ่านไป แก่งหินถูกสายน้ำกัดเซาะ ทำให้มีลักษณะเป็นหลุมบ้าง เป็นโพรงคล้ายถ้ำใต้น้ำบ้าง สามารถเที่ยวได้ทั้งปี แต่ในช่วงฤดูร้อน (เดือนมกราคม-พฤษภาคม) น้ำลด จะเห็นแก่งหินตามน้ำสวยแปลกตา ผู้คนจึงนิยมมาชมเกาะแก่งกันในช่วงนี้

บริเวณนี้มีพัดเย็นสบายและวิวสวยมาก สามารถไปยืนชมวิวได้แบบชิล ๆ ที่ระเบียงบุญซึ่งเป็นจุดชมวิวได้เลย

ศาลพ่อปู่อนันตนาคราช
.
ในอดีต ช่วงที่มีการสร้างสะพานมิตรภาพไทย-ลาวแห่งที่ 2 (มุกดาหาร-สะหวันนะเขต) มีปัญหาและอุบัติเหตุเกิดขึ้นมากมาย ทั้งปัญหาเทปูนสร้างฐานตอม่อสะพานไม่ได้ คนงานบาดเจ็บและเสียชีวิตจากการก่อสร้างหลายต่อหลายคน ทำให้สร้างไม่เสร็จสักที
.
คนพื้นที่เชื่อกันว่าเพราะมีการสร้างสะพานทับถ้ำพญานาค บริเวณตอม่อที่ 11 ที่เกิดอุบัติเหตุร้ายแรงขึ้น ต้องมีการตั้งศาลแห่งนี้ก่อน การสร้างสะพานถึงจะสำเร็จ จึงมีการสร้างศาลแห่งนี้ขึ้นบริเวณใต้สะพานมิตรภาพไทย-ลาวแห่งที่ 2 (มุกดาหาร-สะหวันนะเขต)
.
ที่ตั้ง สะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 2 ต.บางทรายใหญ่ อ.เมือง จ.มุกดาหาร

เมื่อเข้ามาบริเวณศาล จะพบกับองค์พญานาคขนาดใหญ่พันล้อมรอบเสา หันหน้าไปทางแม่น้ำโขง ดูน่าเกรงขามและสวยงามมาก
.
ที่นี่ถือเป็นทั้งแหล่งท่องเที่ยวและสถานที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของชาวบ้านในละแวกนี้ เพราะหลายคนมาไหว้ขอพรแล้วประสบผลตามที่ขอจริง ทุกวันนี้จึงมีทั้งนักท่องเที่ยวที่มาชื่นชมความงาม และผู้ศรัทธาที่แวะเวียนมาสักการะ

เรือนจอมเพชร

ถัดจากศาลพ่อปู่อนันตนาคราช แค่ 5-6 ก้าว เพื่อน ๆ จะพบกับบ้านไม้ทรงไทยหลังงาม ที่นี่เป็นพิพิธภัณฑ์ความเชื่อที่แอดทึ่งและชอบมากทีเดียว ลองตามแอดไปดูกัน แต่ก่อนจะก้าวเท้าเข้าไป แอดอยากให้เพื่อน ๆ เปิดตา เปิดหู เปิดใจให้เห็นความสวยงาม เพราะที่นี่มีจินตนาการความสวยงามให้ชมอยู่ทุกแทบทุกจุดเลย
.
เรือนจอมเพชร มีทั้งหมด 3 ชั้น โดยจำลองเป็นชั้นบาดาล ชั้นโลกมนุษย์ และชั้นสวรรค์ เจ้าของเรือนจอมเพชรคือคุณตี๋ ที่ตั้งใจจะสร้างให้ที่นี่ให้เป็นศูนย์รวมความศรัทธา ความมุ่งมั่น และความดี
.
ค่าบริการ : ฟรี ไม่เสียค่าบริการ การเข้าชม
.
ที่ตั้ง ต.บางทรายใหญ่ อ.เมืองมุกดาหาร จ.มุกดาหาร 49000
เปิดให้รับชมทุกวัน 08.00 – 18.00 น. / ช่วงเทศกาล 08.00 – 22.00 น.
โทร. 09 8670 3618

ชั้นบาดาล

จำลองเป็นถ้ำสมบัติพญานาค โดยจัดแสดงอัญมณี หินและแร่ มากกว่า 3,000 ชิ้น ส่วนบริเวณมุมของห้องก็จัดแสดงรูปปั้นของฤาษีและพญานาคตามความเชื่อ แอดขอแนะนำให้ดูหินและแร่ทีละก้อนด้วยการส่องไฟจากมือถือ แล้วเพื่อน ๆ จะประทับใจกับความระยิบระยับราวกับเพชรของหินแร่แบบแอด

ชั้นโลกมนุษย์

เป็นชั้นที่จัดแสดงพระเครื่อง และเครื่องลางเก่าแก่ บางชิ้นมีอายุระหว่าง 150-180 ปีเลยทีเดียว ส่วนด้านหน้าจะมีรูปจำแลงพญานาคที่แปลงเป็นคนนุ่งขาวห่มขาว ตามตำนานที่มาของคำว่าบวชนาค และมีจุดให้ร่วมบุญเหมือนคนบนโลกมนุษย์ที่สามารถทำบุญทำความดีได้ โดยดอกไม้ธูปเทียน ซึ่งทางเรือนจอมเพชรจัดเตรียมไว้ให้ ไม่เก็บค่าใช้จ่าย นอกจากนี้ ชั้นนี้ยังมีมุมขายเครื่องดื่มให้นักท่องเที่ยวได้นั่งพักด้วย

ไฮไลท์ของที่นี่คือ กรวดน้ำโขง ที่เรียกว่า ปฐวีธาตุ ที่เชื่อว่าเป็นเครื่องลางศักดิ์สิทธิ์ ลักษณะเป็นหินที่เมื่อเอาไฟส่องแล้วจะโปร่งแสง มีสีสวยงาม แต่ละก้อนไม่เหมือนกัน

ชั้นสวรรค์

เมื่อขึ้นมาชั้น 3 เพื่อน ๆ จะพบกับหุ่นขี้ผึ้งของหลวงปู่ใหญ่เทพโลกอุดร หันหน้าไปทางทิศเหนือตามชื่อของท่าน เชื่อกันว่า ท่านเป็นพระภิกษุลึกลับที่คอยแนะนำผู้ปฏิบัติธรรมมาหลายยุคหลายสมัยทางดวงจิต สามารถกราบขอพรให้มีสติปัญญาและร่างกายที่แข็งแรงได้

ในชั้นนี้ เพื่อน ๆ จะพบกับหุ่นขี้ผึ้งของเกจิอาจารย์เยอะไปหมด ทั้งหลวงปู่มั่น หลวงปู่ทวด หลวงปู่แหวน ฯลฯ ตอนแรกแอดก็แปลกใจ เพราะชั้นสวรรค์ที่แอดคิดไว้ไม่ได้เป็นแบบนี้ แต่พอทราบความหมายของสวรรค์ที่นี่ก็ถึงบางอ้อ เพราะตามความเชื่อแล้ว เกจิอาจารย์หลาย ๆ ท่าน เมื่อละสังขารแล้วก็จะมาอยู่ที่สวรรค์นั่นเอง

เมื่อเดินเข้าไปห้องด้านในสุดของชั้นสวรรค์ เพื่อน ๆ จะพบกับเจ้าแม่กวนอิม ที่ดูเป็นทั้งผุู้หญิงและผู้ชายอยู่ในองค์เดียวกันอีกด้วย

ผนังด้านในของชั้นสวรรค์ จะประดับด้วยโป่งข่าม ซึ่งเป็นหินแก้วตระกูลแร่ควอตซ์ (Quartz) ก่อนหน้านี้แอดเห็นแต่ความสวยงามของแร่โป่งข่ามเฉย ๆ แต่ที่นี่ให้ความหมายและจินตนาการใหม่ โดยลองส่องแฟลช แล้วมองเข้าไปในแร่แต่ละก้อน จะเห็นโลกอีกโลกหนึ่งอยู่ภายใน ซึ่งพอดูดี ๆ บวกจินตนาการนิดหน่อย จะเห็นภูมิประเทศเป็นน้ำตก ภูเขา ทุ่งหญ้า ในแร่แต่ละก้อนไม่เหมือนกันเลย เพลินมาก

อีกหนึ่งไฮไลท์ของที่นี่ก็คือ วิวแม่น้ำโขงที่สะพานมิตรภาพไทย-ลาวแห่งที่ 2 นั่นเอง วิวสวยมาก คุณตี๋บอกว่าพอตกกลางคืนมีการเปิดไฟสะพานจะยิ่งสวย แต่ที่สวยที่สุดคือคืนพระจันทร์เต็มดวง พระจันทร์จะสะท้อนลงน้ำ เงาพระจันทร์กระเพื่อมตามแรงคลื่น เมื่อผสมกับประกายระยิบระยับของแสงไฟสะพานด้วยแล้ว โรแมนติกมาก

สะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 2 (มุกดาหาร–สะหวันนะเขต)
.
จุดสุดท้ายของวันก็อยู่ในบริเวณเดียวกันกับศาลพ่อปู่อนันตนาคราชและเรือนจอมเพชร สะพานแห่งนี้ สร้างขึ้นเพื่ออำนวยความสะดวกในการเดินทางของประชาชนและขนส่งสินค้าระหว่างประเทศไทยกับ สปป.ลาว มีความยาว 1,600 เมตร กว้าง 12 เมตร
.
ที่ตั้ง ต.บางทรายใหญ่ อ.เมืองมุกดาหาร จ.มุกดาหาร 49000

บริเวณทางขึ้นสะพาน จะมีร้านหมูจุ่ม หมูกระทะ ส้มตำ และที่นั่งริมน้ำฝั่งโขงให้นั่งดูวิวสวย ๆ ของแม่น้ำโขงไประหว่างกินมื้อเย็น อิ่มท้อง อิ่มตา อย่างสบายใจ

สำหรับเพื่อน ๆ ที่อยากมาชมวิวสะพาน ให้เสิร์ชคำว่า “จุดชมวิวสะพานมิตรภาพไทยลาวแห่งที่ 2” หรือไม่ก็ “ศาลพ่อปู่อนันตนาคราช” นะ เพราะตอนที่แอดไป แอดเสิร์ชคำว่า “สะพานมิตรภาพไทยลาวแห่งที่ 2” ปรากฏว่า แผนที่พาไปตรงจุดข้ามฝั่ง หรือตรงด่านตรวจที่มี ตม. นั่นแหละ เจ้าหน้าที่ก็บอกว่า มีนักท่องเที่ยวมาผิดจากการเสิร์ชหลายคนแล้วเหมือนกัน ผิดเป็นครู แอดผิดให้แล้ว เพื่อน ๆ อย่าผิดเหมือนแอดนะ

Scroll to Top
Send this to a friend